Sanada Yukimura


Sanada Yukimura 

       ซะนะดะ ซะเอมงโนะซุเกะ ยุกิมุระ ค.ศ. 1567 - ค.ศ. 1615 ถือเป็นสุดยอดซามูไรชาวญี่ปุ่นแห่งยุคเซงโงะกุ เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของซะนะดะ มะซะยุกิ (พี่ชายคนโต : ซะนะดะ โนบุยุกิ) ซึ่งเป็นไดเมียวปกครองตระกูลซะนะดะ (ค.ศ. 1544 – ค.ศ. 1611) เดิมมีชื่อว่า "ซะนะดะ โนะบุชิเกะ" ซึ่งถูกตั้งตามน้องชายของ "ทะเกะดะ ชิงเก็ง" "ทะเกะดะ โนะบุชิเกะ" บิดาของยูกิมุระได้รับการขนานนามว่าเป็นยอดนักวางแผนการสงคราม ซึ่งกองทัพซะนะดะก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตนัก แต่กลับสามารถเอาชนะกองทัพขนาดใหญ่ได้ในการศึกมากมายหลายครั้งส่วนตัวของซะนะดะ ยุกิมุระ เองก็ได้รับการขนานนามไว้หลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น "สุดยอดนักรบอันดับในรอบ 100 ปี" "ปีศาจสีเลือดแห่งสงคราม" และ ชิมะซุ ทะดะสึเนะก็เรียกยุกิมุระว่า "นักรบอันดับ 1 แห่งญี่ปุ่น"


ยุกิมุระ สมรสกับ อะกิฮิเมะ ลูกสาวบุญธรรมของ "โอะตะนิ โยะชิสึงุ" และมีบุตรชายด้วยกันสองคน คือ "ไดสึเกะ" (ยุคิมะสะ) และ "ไดฮะจิ" (โมะริโนะบุ) มะซะยุคิ บิดาของยุคิมูระ รับใช้ทะเกะดะ ชินเก็งในฐานะของผู้ติดตาม ซึ่งยุกิมุระเองก็เป็นผู้สืบทอดชื่อสกุลของตระกูลซะนะดะ และปราสาทอุเอะดะ
ในปีค.ศ. 1582 กองทัพผสม โอดะ-โทะกุงะวะ ได้บดขยี้ทำลายตระกูลทะเกะดะลง ในทีแรก ตระกูลซะนะดะตั้งใจจะยอมจำนนต่อโอะดะ โนะบุนะงะ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่วัดฮอนโนจิ ที่อาเคจิ มิสึฮิเดะทรยศโอะดะ โนะบุนะงะ และจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้โนะบุนะงะ เสียชีวิต และส่งผลให้ตระกูลซะนะดะ กลับมามีอิสระอีกครั้งหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่า ต้องเร่ร่อนอยู่ท่ามกลางแรงกดดันจากตระกูลใหญ่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็น ตระกูลอุเอะสึกิ , ตระกูลโฮโจ , และตระกูลโทะกุงะวะ แต่ในที่สุด ตระกูลซะนะดะ ก็ได้กลายเป็นขุนนางภายใต้การปกครองของ "โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ"
ในช่วงเวลานี้เอง ตัวของฮิเดะโยะชิ ได้ให้การดูแล และคุ้มครองตัวของยุกิมุระเป็นอย่างดี โดยความชอบและพึงพอใจของฮิเดะโยะชิ สามารถรับรู้ได้จากการที่ ตัวของยูกิมุระ ถึงกับสามารถใช้นามสกุลของโทะโยะโตะมิได้ด้วยซ้ำ
ในปีค.ศ. 1600 หลังโชกุนฮิเดะโยะชิสิ้นชีพไปตำแหน่งโชกุนจึงว่างลง แล้วเกิดการชิงตำแหน่งขึ้นระหว่างโทะกุงะวะ และ ผู้ปกป้องตระกูลโทะโยะโตะมิอย่าง อิชิดะ มิสึนะริ เกิดเป็นสงครามเซะกิงะฮะระ โทกุงะวะ อิเอะยะสึรวมกำลังกับไดเมียวมากมายเพื่อจะโจมตี ทัพของอุเอะซึกิ คะเงะคะสึ ซึ่งตระกูลซะนะดะก็ร่วมด้วย แต่เมื่ออิชิดะ มิสึนะริตัดสินใจ ที่จะรบกับอิเอะยะสึ ซะนะดะ มะซะยุคิ และ ยุกิมุระจึงไปเข้ากับทัพตะวันตกของมิสึนะริ แต่ทางโนะบุยุคิ ลูกคนโตของมะซะยุคิ และ พี่ชายของยุกิมุระ ต้องเข้ากับทัพตะวันออกเนื่องจากเขาเป็นลูกเขยของฮนดะ ทะดะกะสึ
สองพ่อลูกซะนะดะต้องถอนทัพไปยังปราสาทอุเอะดะและป้องกันปราสาท เมื่ออิเอะยะซุ ทำการยกทัพมา สองพ่อลูกซะนะดะก็ออกรบพร้อมด้วยทหารจำนวน 2,000 คน และสู้กับทหารจำนวน 40,000 ของฮิเดะทะดะ ที่ระหว่างนั้นสภาพจิตใจเขาไม่ค่อยดีนักทำให้เขาไม่โผล่ออกมารบเลย ซึ่งเสียชื่อเสียงตระกูลโทะกุงะวะนัก
ด้วยสาเหตุนี้เมื่อเซะคิงาฮะระจบลง โทะกุงะวะ อิเอะยะซุ จึงต้องการประหาร ตระกูลซะนะดะแต่เพราะคำขอร้องของโนะบุยุคิให้ไว้ชีวิต อิเอะยะซุจึงขับไล่ตระกูลซะนะดะไปยังจังหวัดไคและกักบริเวณ ไม่นานนักมะซะยุคิ ก็เสียชีวิตลง


12 ปีต่อมา เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลโทะโยะโตะมิ และโชกุนโทะกุงะวะ ย่ำแย่ลง ทางฮิเดะโยะชิ ก็เริ่มเกณฑ์ทหารโรนินเพื่อเตรียมทำสงคราม ยูกิมุระได้ทราบข่าวก็หลบหนีจากจังหวัดไคเพื่อไปร่วมบุกปราสาทโอซะกะ
ในสงครามฤดูหนาวที่โอซะกะ ยูกิมุระได้สร้างป้อมซะนะดะมารุ ขึ้นที่ทางใต้ของปราสาทโอซะกะ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของปราสาท ไม่นานนักปราสาทก็แตก
ปีต่อมาในสงครามฤดูร้อนที่โอซะกะ อิเอะยะสึมาบุกชิงปราสาทคืน ยูกิมุระตัดสินใจว่าจะไม่รบแบบตั้งรับแต่จะ เดินหน้าบุกไปทำลายทัพใหญ่ของอิเอะยะสึ การโจมตีของเขาสามารถ ทะลุทะลวงจนเกือบถึงตัวอิเอะยะสึ แต่ยูกิมุระฝ่าฟันทัพใหญ่ของอิเอะยะสึมา จึงทำให้เขาบาดเจ็บหนักทนพิษบาดแผลไม่ไหวและตายก่อนจะถึงตัวอิเอะยะสึ กล่าวกันว่าอิเอะยะสึ หวั่นเกรงภาพของยูกิมุระเมื่อตอนรบ จนวันสิ้นใจของเขาทีเดียว
นอกจากนี้ โทะกุงะวะ อิเอะยะสึยังยกย่องยูกิมุระว่าเป็น ยอดนักรบ จอมวางแผนและเป็นแม่ทัพที่รู้จักการให้
ตำนานกล่าวไว้อีกว่ายูกิมุระ มีนินจากลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นทั้งผู้ช่วย ลูกน้อง และเพื่อน มีด้วยกัน 10 คนเรียกว่า 10 ผู้กล้าซะนะดะ ประกอบไปด้วย ซารุโทบิ ซาสึเกะ,คิริงะคุเระ ไซโซ สองคนนี้ถือเป็นหนึ่งในตำนานเทียบเท่าฮัตโตริ ฮันโซ และ และฟูมะ โคะทะโระ คนอื่นๆ ก็มี มิโยชิ เซกะอิ ,มิโยชิ อิสะ ,อะนะยะเมะ โคะสึเกะ ,อันโนะ โระกุโระ ,คะเคะอิ จูโซ ,เนะสึ จินปาชิ ,โมะจิสึกิ โระกุโระ และ ยูริ คะมะโนะสึเกะ

Sanada Yukimura, actual name: Sanada Nobushige, was a Japanese samurai warrior of the Sengoku period. He was especially known as the leading general on the defending side of the Siege of Osaka.

Yukimura was called "A Hero who may appear once in a hundred years" and "Crimson Demon of War." The famed veteran of the invasion of Korea, Shimazu Tadatsune, called him the "Number one warrior in Japan"
He was the second son of Sanada Masayuki. His elder brother was Sanada Nobuyuki. He was married to Akihime, a foster-daughter of Ōtani Yoshitsugu. They had two sons, Daisuke and Daihachi.

In 1575, the Battle of Nagashino claimed the lives of two of Sanada Masayuki's elder brothers. Masayuki, previously serving Takeda Shingen and Takeda Katsuyori as a retainer, inherited the Sanada clan and left for Ueda Castle. Yukimura also went, taking the Sanada name as well.

By 1582, the Oda-Tokugawa forces had destroyed the Takeda clan. The Sanada initially surrendered to Oda Nobunaga, but, after the Incident at Honnōji, it became independent again, drifting between stronger daimyo such as the Uesugi clan, the Late Hōjō clan, and the Tokugawa clan. Eventually, the Sanada clan became a vassal of Toyotomi Hideyoshi.


真田信繁,出生於,于武田信玄的居城甲斐國躑躅崎館城,、卒於1615年6月3日,于大坂安居天神社, 在今大阪府天王寺區)。是日本戰國時代末期、江戶時代初期的武將,真田幸隆之孫、真田昌幸之次男。戰國亂世最後的英雄,以真田幸村、真田左衛門佐之名聞名於世。

因其在大坂之戰以寡擊眾的英勇表現,被江戶幕府和諸國大名記錄下來, 後來以這些史料為腳本的小說將真田幸村以及虛構人物真田十勇士描繪成與德川家康大軍對抗的武將,而聞名於現世。島津忠恒稱譽他為「日本第一勇士」(日本一の兵,《舊記雜錄》)。


戰國末年的真田信繁與源平合戰的源義經、建武中興時代的楠木正成並列日本史中三大「末代」悲劇英雄。



About Socius

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.

0 Comments:

แสดงความคิดเห็น